ผู้นำกับ Growth Mindset
เรียนรู้ Growth Mindset จากเรื่องจริง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาไม่เพียงเกิดในครอบครัวยากจน แต่ยังโชคร้ายที่มีคุณพ่อที่ขี้เมาและมีทัศนคติลบตลอดเวลา เวลาเมาก็ชอบทำร้ายแม่ และชอบบอกกับตัวเองเสมอว่า “คนที่เกิดในสลัม โตในสลัม ก็ต้องตายในสลัม” ไม่เพียงแค่บอกตัวเองเท่านั้น พ่อยังบอกกับเด็กหนุ่มด้วยว่า “ลูกเอ๋ย!!! จะไปเรียนหนังสือทำไม อนาคตยังไงก็ต้องจบในสลัม ชะตาฟ้าลิขิตมาแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ถ้าเขาอยากจะให้เจ้าได้ดี เขาต้องให้เจ้าไปเกิดในที่ดี ๆ ไปแล้ว เข้าใจมั๊ย”
ชีวิตยังไม่โชคร้ายซะทีเดียว เด็กหนุ่มมีคุณแม่ที่มีความเชื่อหรือแนวคิดที่ดี (Mindset) เธอคอยสอนลูกชายว่า “เกิดที่ไหนไม่สำคัญ สถานภาพเป็นอย่างไรไม่สำคัญ สำคัญว่าตั้งใจจะเป็นอะไรต่างหาก วันนี้เป็นอย่างไรไม่สำคัญ สำคัญว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรต่างหาก”
พ่อพูดอย่างหนึ่ง แม่พูดอย่างหนึ่ง ไม่รู้จะเชื่อใครดี? คุณที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ คิดว่าเด็กหนุ่มจะเชื่อใคร
โดยธรรมชาติของจิตย่อมมุ่งลงไปสู่ที่ง่ายกว่าเสมอ ถ้าเลือกได้เราจะเลือกทำในสิ่งที่ง่ายกว่าเสมอ เชื่อพ่อง่ายกว่าเชื่อแม่ เด็กหนุ่มจึงดำเนินชีวิตตามที่พ่อสอน เขาตั้งใจเรียนได้สักพัก เริ่มขี้เกียจ คิดว่าตั้งใจเรียนไปก็เท่านั้น อนาคตคงเอาดีไม่ได้ ยังไงก็ต้องอยู่แต่ในสลัม สุดท้ายก็เป็นนักเรียนนักเลง และถูกไล่ออกจากโรงเรียน เมื่อใช้ชีวิตทำงาน หัวหน้าพูดจาผิดหูหน่อยก็ไม่พอใจ ในที่สุดจึงตกงานครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งอายุ 35 ปี มีครอบครัว มีลูก ชีวิตยากจนถึงขั้นว่าไม่มีแม้แต่นมหรืออาหารจะให้ลูกกิน
“โดยธรรมชาติของจิตย่อมมุ่งลงไปสู่ที่ง่ายกว่าเสมอ ถ้าเลือกได้เราจะเลือกทำในสิ่งที่ง่ายกว่าเสมอ” โชคชะตายังปราณี วันหนึ่งคิดขึ้นมาได้ว่า เชื่อพ่อมาตลอด 35 ปี ชีวิตไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่จะแย่ลง ๆ เราแย่ไม่เป็นไร แต่ลูกจะมีพ่อที่แย่ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเราลองเชื่อแม่บ้างดีกว่า ไม่มีอะไรเสียหาย เราจะลองทำตามที่แม่บอกว่า “เกิดมาจน หมายความว่าต้องทุ่มเทมากกว่าคนอื่น ต้องพยายามมากกว่าคนอื่น”
ทันทีที่คุณเปลี่ยนความคิด (Mindset) ชีวิตที่เหลือของคุณจะเปลี่ยนไป เขาเริ่มหางานทำ แต่สภาพร่างกายที่ดูโทรมของเขา ทุกที่จึงปฏิเสธเขาหมด ทุกครั้งที่ถูกปฏิเสธงาน เขามีความรู้สึกท้อมาก วันหนึ่งมาหยุดอยู่หน้าโชว์รูมรถยนต์ มองเห็นพนักงานขายรถที่ดูแลคิวลูกค้าของตนเอง ลูกค้าเดินเข้ามาก็ไปดูแล แล้วพยายามขาย เขาบอกกับตัวเองว่า แค่ขายรถคงไม่ยาก จึงตัดสินใจเดินเข้าไปสมัครงานกับผู้จัดการโชว์รูม เขาได้รับการปฏิเสธเพราะเรียนไม่จบ ไม่มีประสบการณ์ขาย ไม่มีความรู้เรื่องรถ และขับรถไม่เป็น ไม่ว่าเขาจะร้องขออย่างไร ผู้จัดการก็ปฏิเสธ สุดท้ายได้งานเพราะลูกตื๊อ และจากการให้โอกาสของผู้จัดการ แต่อยู่บนเงื่อนไขว่า ทางโชว์รูมไม่มีเงินเดือนให้ ถ้าขายได้จึงจะให้คอมมิชชั่น
วันแรกของการขาย เขาจำได้แค่เพียงว่าลูกค้าเป็นเซลส์ขายน้ำอัดลม หน้าตาเป็นอย่างไรและชื่ออะไรจำไม่ได้เลย ในหัวมีแต่ความคิดว่า “ขายได้มีข้าวกิน ขายไม่ได้ไม่มี” เขาพยายามเต็มที่กับความรู้ที่มี โชคชะตาเข้าข้าง วันนั้นเขาขายได้ เขาขอเบิกคอมมิชชั่นล่วงหน้าและซื้ออาหารกลับบ้าน วันนั้นเป็นวันที่เขามีความสุขที่สุด เขาบอกกับตนเองว่า “ขนาดไม่รู้อะไรเลยยังขายได้ ถ้ารู้มากกว่านี้ มันน่าจะยิ่งขายได้สิ น่ากลัวแม่คงพูดถูกว่าที่เกิดมาจน หมายความว่าต้องพยายามมากกว่าคนอื่น วันหนึ่งจะภูมิใจมากกว่าคนอื่น”
คืนนั้นเขานอนไม่หลับ คิดใคร่ครวญกับเรื่องราวของชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมด ตื่นเช้าขึ้นมาบอกกับตนเองว่า “เราก็ดีได้นะ ไม่มีความรู้ยังขายได้ ถ้ามีความรู้จะเป็นอย่างไร ไหน ๆ จะทำแล้ว ทำไมไม่ทำให้ดีที่สุดล่ะ”
“ทันทีที่คุณเปลี่ยนความคิด (Mindset) ชีวิตที่เหลือของคุณจะเปลี่ยนไป” เขาเริ่มเรียนรู้ทุกอย่างที่จำเป็นต่องานขาย ไม่ว่าจะเป็นความรู้สินค้า วิธีการขายจากเซลส์ที่เก่งที่สุดในโชว์รูม การดูแลลูกค้า การทำให้ลูกค้าประทับใจ ใช้ความพยายามอย่างสูงมาก จนผลงานขายดีขึ้นเป็นลำดับ กลายเป็นยอดนักขายอันดับหนึ่งของโชว์รูม ของเมือง ของรัฐ และของประเทศ คนเดียวที่สามารถทำลายสถิติของเขาได้ตลอด 11 ปี คือตัวเขาเอง จากเด็กหนุ่มที่ล้มเหลวมาตลอด 35 ปี ได้รับเกียรติจารึกชื่อลงในหนังสือ Guinness Book of World Record ว่าเป็น “สุดยอดนักขายอันดับหนึ่งตลอดกาลของโลกชื่อ โจ จิราด (Joe Girard)”
เรื่องราวนี้สอนให้รู้ว่า ทันทีที่คุณเปลี่ยนความคิดหรือความเชื่อของคุณ (Mindset) การกระทำของคุณจะเปลี่ยนไปทันที (Behavior) โจ จิราด ในช่วงก่อนอายุ 35 ปี เป็นคนที่มีกรอบความคิดแบบตายตัว (Fixed Mindset) หมายถึง เขาเชื่อว่าคุณสมบัติของตนเองเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่โจ จิราด ในช่วงหลังจากอายุ 35 ปี เป็นคนที่มีกรอบความคิดแบบพัฒนาได้ (Growth Mindset) หมายถึง เขาเชื่อว่าคุณสมบัติของตนเองเป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาได้ด้วยความพยายาม ถึงแม้ว่าคนเราอาจมีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้าน แต่ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงและเติบโตได้ด้วยความพยายามและการเก็บเกี่ยวจากประสบการณ์ (Effort and Experience)
“กรอบความคิดแบบพัฒนาได้ (Growth Mindset) หมายถึง การเชื่อว่าคุณสมบัติของตนเองเป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาได้ด้วยความพยายาม ถึงแม้ว่าคนเราอาจมีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้าน แต่ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงและเติบโตได้ด้วยความพยายามและการเก็บเกี่ยวจากประสบการณ์ (Effort and Experience)” กรอบความคิด (Mindset) จะเป็นตัวกำหนดเราทุกอย่าง เราจะเป็นอย่างไรก็เพราะมุมมองของเราที่มีต่อเรื่องต่าง ๆ และกรอบความคิดแบบพัฒนาได้ (Growth Mindset) มีความสำคัญมากต่อการใช้ชีวิต ช่วยให้คนมีการพัฒนาตนเอง มีการตั้งเป้าหมาย (Target) ใช้ความพยายามมากขึ้น (Effort) และมีระเบียบวินัยต่อตนเอง (Discipline)
(เครดิตข้อมูล: งานแห่งอนาคต (Career for Life), มนตรี แสงอุไรพร)
(เครดิตรูปภาพ: https://www.joegirard.com/)
04 กุมภาพันธ์ 2564
ผู้ชม 17661 ครั้ง