หลักการและเหตุผล
ปัญหาที่สำคัญประการหนึ่งขององค์กรในปัจจุบันคือ บุคลากรขาดทักษะการคิดแก้ปัญหาและตัดสินใจที่ดีและถูกต้อง ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและการพัฒนาตนเอง ทำให้ผลผลิตโดยรวมขององค์กรลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการพัฒนาทักษะการคิดให้กับบุคลากรจึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะความคิดเชิงระบบ หรืออาจเรียกอีกอย่างว่าเป็น “วิธีคิดอย่างเป็นระบบ” (Systems Thinking)
การคิดอย่างเป็นระบบ (Systems Thinking) เป็นวินัยที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งในวินัย 5 ประการ สำหรับการพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) ของปรมาจารย์แห่งการบริหารและการพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้โลก ดร. ปีเตอร์ เอ็ม เซ็งเก้ (Peter M. Senge) ศาสตราจารย์แห่ง MIT Sloan School of Management โดยท่านกล่าวเน้นว่า “องค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นองค์กรที่ขยายขีดความสามารถ และเพิ่มศักยภาพเพื่อสร้างผลงาน และสร้างอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้คนในองค์กรต่างก็เรียนรู้วิธีที่จะเรียนรู้ด้วยกันอย่างต่อเนื่อง (Learn How to Learn)”
หัวใจสำคัญของวิธีคิดอย่างเป็นระบบ (The Essence of Systems Thinking) คือ การให้ความสำคัญของวงจรการป้อนกลับ (Feedback Loops) โดยการป้อนกลับนี้อยู่บนพื้นฐานการเกิดขึ้นของเหตุและผลอย่างแท้จริง (Cause and Effect) นำไปสู่การเกิดขึ้นของปรากฏการณ์ต่าง ๆ (Emergent Properties) หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นพฤติกรรมของระบบ ซึ่งโครงสร้างของระบบประกอบด้วย
1.องค์ประกอบ (Element)
2.การเชื่อมโยง (Linkage)
3.กลไกการทำงาน (Mechanism)
4.ความสมดุลของระบบ (System Balance)ประโยชน์ที่เกิดขึ้นของการพัฒนาทักษะการคิดอย่างเป็นระบบมีดังนี้
- ส่งเสริมให้บุคลากรคิดวิธีแก้ปัญหาอย่างรอบด้าน “เลือกแก้ปัจจัยที่มีผลกระทบสูงสุด” ไม่ด่วนตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยแนวทางใดทางหนึ่ง อันอาจส่งผลให้เกิดปัญหาอื่นตามมาในภายหลัง โดยใช้เครื่องมือ : ตารางการแก้ปัญหาและตัดสินใจ (PSDM Table)
- ส่งเสริมให้บุคลากรเกิด “การเรียนรู้วิธีการเรียนรู้ (Learn How to Learn)” ผ่านวงจรแห่งการเรียนรู้แบบเชิงคู่หรือแบบเสริมสร้าง (Double Loop Learning or Generative Loop Learning) กระตุ้นให้ตั้งเป้าหมายเพื่อพัฒนาตนเอง ซึ่งส่งผลให้บุคลากรมีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น อันมีผลต่อประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กร
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
- เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายของ “ระบบ” และ “ความคิดเชิงระบบ” อย่างถูกต้อง โดยเรียนรู้ผ่านแนวคิดของวงจรป้อนกลับ (Feedback Loops) และวงจรป้อนกลับแบบเสริมแรงและแบบสมดุล (Reinforcing and Balancing Feedback Loop)
- เพื่อให้ผู้เรียนสามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ มีหลักการวิเคราะห์ปัจจัยสู่ความสำเร็จและผลกระทบที่เกิดขึ้น ด้วยการใช้ตารางการแก้ปัญหาและตัดสินใจ (PSDM Table)
- เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจ 3 รูปแบบการเรียนรู้ในความคิดเชิงระบบ พร้อมกับกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้แบบยกระดับ (Goal Setting Learning) และการตั้งคำถามเพื่อพัฒนาการเรียนรู้แบบยกระดับ (Coaching Question)
รายละเอียดเนื้อหาตามหลักสูตร
Module - 1 พื้นฐานของการคิดแก้ปัญหาเชิงระบบ
Module - 2 ความหมายของระบบและความคิดเชิงระบบ (System Thinking)
- กิจกรรมปรับคลื่นความถี่สมองก่อนการเรียนรู้
- หลักสำคัญของการคิดแก้ปัญหาเชิงระบบ
- ความหมายของการคิดแก้ปัญหา
- แบบทดสอบเบื้องต้นของความคิดเชิงระบบ
- ความเชื่อ ค่านิยม พฤติกรรม และผลกระทบ
- Systems Thinking & Systematic Thinking
- ความคิดเชิงเส้นและความคิดเชิงระบบ (Linear & Systems Thinking)
ผลกระทบที่เกิดขึ้น (Effect in the Systems)
ปัจจัยสร้างความสำเร็จ (Factor in the System)- Activity I: สร้างแผนภาพผลกระทบและปัจจัย
- ประเด็นสำคัญ 6 ประการของความคิดเชิงระบบ
Module - 3 รูปแบบการเรียนรู้ (Learn How to Learn) ในความคิดเชิงระบบ
- ความหมายของระบบ (What is a Systems?)
- คุณลักษณะสำคัญที่แสดงความเป็นระบบ
- ความหมายของความคิดเชิงระบบ
- แผนผังวงจรสาเหตุ (Causal Loop Diagram – CLD)
- ธรรมชาติและปรากฏการณ์ของ Systems Thinking
- Feedback Loops: หัวใจสำคัญของระบบ
- ประเภทของวงจรป้อนกลับ
วงจรการป้อนกลับแบบเสริมแรง (Reinforcing Feedback Loop)
วงจรการป้อนกลับแบบสมดุล (Balancing Feedback Loop)- Activity II: แบบทดสอบวงจรการป้อนกลับ
Module - 4 การคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน (Systematic Thinking)
- ไม่มีการเรียนรู้ (No Learning)
- การเรียนรู้เพื่อการปรับตัว (Adaptive Learning)
- การเรียนรู้เพื่อการยกระดับ (Goal Setting Learning)
- การตั้งคำถามเพื่อพัฒนาการเรียนรู้แบบยกระดับ (Coaching Question)
- ความหมายของ Systematic Thinking
- ขั้นตอนการแก้ปัญหาและตัดสินใจเชิงระบบ
- ตารางการแก้ปัญหาและตัดสินใจ (PSDM Table)
- Activity III: กิจกรรมแก้ปัญหาด้วย PSDM Table
เต็มใจให้คำปรึกษา : คุณบุษกร สุขโรดม (ผู้จัดการฝ่ายขาย)